Archive | Uncategorized RSS feed for this section

วันกิยามะฮ.วันสิ้นโลก2

22 ม.ค.

ลักษณะของวันกิยามะฮ.ไม่มีผู้ใดที่จะรู้แน่ชัดนอกจากอัลลอฮแต่อัลลอฮ.ก็ได้อิบายไว้ในอัลกุรอ่านเกี่ยวกับความน่าสยดสยองของวันนี้เอาไว้ว่าในวันนั้นภูเขาจะปลิ้วเหมือนแมลงเม้า ดวงดาวจะตกลงเปลียบดังผุยผง ระบบการโคจรของจักรวาลจะแปรป่วน แผ่นดินจะแยกออก  และทุกอย่างจะถูกผังทลายให้แตกสลายเป็นต้น และพวกที่เลวที่สุดคือพวกที่อยู่ได้เห็นความพินาศของวันกิยามะฮ.ที่มนุษย์ ญิน มาลาอิกะฮและสิ่งถูกสร้างทั้งหลายทั้งหมดต้องตายด้วยการเป่าสังข์ครั้งแรกแม้แต่มาลาอิกะฮ.ผู้เป่าสังข์ก็ต้องตาย เหลือแต่เพียงอัลลอฮตะอาลาพียงองค์เดียว

ภาพวันกิยามะฮที่เราไม่สามรถนึกได้ว่าความน่าหวาดกลัวของวันนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เป็นภาพหนึ่งสัญญานวันกิยามะห์ซึ่งยังเทียบไม่ได้ความน่าหวาดกลัวของวันนั้น

วันกิยามะฮ.วันสิ้นโลก

22 ม.ค.

วันกิยามะฮ.วันสิ้นโลกเป็นอีกหนึ่งหลักศรัทธาที่มุสลิมต้องศรัทธาและวันกิยามะฮ.ก็ไม่มีผู้ใดจะทราบได้นอกจากอัลลอฮ. ที่จะทราบแต่พระองค์ได้บอกถึงการเกิดของวันนี้ว่าจะเกิดขึ้นในวันศุกร์และมีสัญลักษณ์ดังนี้ โดยแบ่งเป็นสัญญาณเล็กและสัญญาณใหญ่ สัญญาณเล็กเช่นผู้คนจะแข่งขันกันสร้างตึกสูงๆ  แข่งการสร้างมัสยิดใหญ่ๆแต่ไม่มีผู้คนเข้าไปทำการละหมาด สิ่งที่ถูกจะถูกบิดเบือน จะเกิดภัยพิบัติทั้งในน้ำ พื้นดิน และอากาศ และสัญาณเล็ที่ทุกๆคนอาจไม่เชื่อคือโซเวียตจะล่มสลายและแตกออกเป็นหลายประเทศ ฯลฯ

สัญญาณใหญ่เช่น  ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันออก ดัดญ้าล  ยะยู้ล มะยู้ลจะมาหลอกล่วงผู้ที่ศรัทธาให้ไปอยู่กับพวกของผู้ปฏิเสธศรัทธาผู้ที่ปลอดภัยคือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮและสัตว์พวกนี้จะไม่กล้าที่จะเข้าเมือง2เมือง คือ มักกะฮ. และมาดีนะฮ.  นบีอีซาและอิหม่ามมะฮดีจะลงมาปราบสัตว์พวกนั้น เป็นต้น

ภาพที่นำมาเป็นภาพที่ไม่ใช่ภาพวันกิยามะฮที่เราไม่สามรถนึกได้ว่าความน่าหวาดกลัวของวันนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เป็นภาพหนึ่งสัญญานวันกิยามะห์ซึ่งยังเทียบไม่ได้ความน่าหวาดกลัวของวันนั้น

ขอบคุณภาพจากเว็ป spufriends.com  และ oknation.comboard.palungjit.comboard.palungjit.com

มาลาอิกะฮผู้ภักดีต่ออัลลอฮ.

22 ม.ค.

อีกหลักประการหนึ่งที่มุสลิมต้องศรัทธาคือศรัทธาต่อบรรดามาลาอิกะฮ.เป็นมัค-รูก(สิ่งถูกสร้างจากอัลลอฮ.)            มาลาอิกะฮ.คือผู้ที่อัลลอฮสร้างมาเพื่อให้รับใช้พระองค์ เป็นผู้ที่ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่นอน                                               

 มาลาอิกะฮ.หน้าที่โดยการจัดหมวดหมู่เช่น

  • มีหน้าที่ประจำบ่าซ้ายและบ่าขวาของมนุษย์เพื่อบัทึกความดีความชั่ว 
  • มีหน้าที่เฝ้าประตูนรก
  • มีหน้าที่เฝ้าประตูสวรรค์ 
  • มีหน้าที่เป้าสังข์ในวันกิยามะห์ 
  • มีหน้าที่นำบัญญัติต่างๆของอัลลอฮ.มาส่งให้กลับบรรดานบี 
  • มีหน้าที่ในการถอดวิญญาณมนุษย์   
  • มีหน้าที่เป้าวิญญาณมนุษย์   เป็นต้น

ส่วนจำนวนของมาลาอิกะฮ.ไม่มีผู้ใดทราบได้นอกจากอัลลอฮ.

เนื่องจากภาพ อัลลอฮและร่อซูลและมาลาอิกะฮ.ไม่มีใครผู้ใดเคยเห็นเนื่องจากถ้ามีรูปพระองค์ก็จะทำให้เกิดการปั่นรูปตัวแทนพระองค์ขึ้นมา

นบีและร่อซูล

22 ม.ค.

นบีคือผู้ที่อัลลอฮตะอาลาทรงคัดเลือกมาจากมนุษย์ และให้เผยแพร่ศาสนากับคนในครอบครัวและกลุ่มชนเล็กที่ตนอยู่ ส่วนจำนวนของนบีนั้น บางสายรายงานบอกว่ามี 250,000 ท่าน บางสายรายงานบอกว่ามากหรือน้อยกว่านั้น แต่จำนวนที่แน่ชัดอยู่ ณ.ที่อัลลอฮ ตะอาลา

ร่อซูลคือผู้ที่อัลลอฮ ตะอาลาทรงคัดเลือกมาจากนบีและให้เผยแพร่ศาสนากับทุกๆคนทุกๆประชาชาติ

มีทั้งหมด 25 ท่านคือ

  1. นบีอาดัม 
  2.  นบีอิดรีส
  3.  นบีนั๊วฮ 
  4. นบีฮูด  
  5. นบีซอและฮ 
  6. นบีอิรอฮีม  
  7. นบีลูฏ  
  8. นบีอิสมาอีล  
  9. นบีอิสฮาก   
  10. นบียะกู๊บ  
  11. นบียูซุฟ 
  12. นบีอัยยูบ  
  13. นบีซุลกิบ  
  14. นบีมูซา
  15. นบีฮารูน
  16. นบีดาวูด  
  17. นบีสุลัยมาน
  18. ชูอัยบ์ 
  19. นบิอิลยาส  
  20. นบีอัลยะซะฮ  
  21. นบียูนุส  
  22. นบีซักรียา
  23. นบียะฮยา
  24. นบีอีซา
  25. นบีมุฮัมหมัด

เนื่องจากภาพ อัลลอฮและร่อซูลไม่มีใครผู้ใดเคยเห็นเนื่องจากถ้ามีรูปพระองค์ก็จะทำให้เกิดการปั่นรูปตัวแทนพระองค์ขึ้นมา

และขอบคุณภาพรายอักษรภาษาอาหรับจาก มัสยิดกลางจ.ฉะเชิงเทรา

อัลกุรอ่านเป็นทางนำแห่งชีวิต

22 ม.ค.

อัลกุรอ่านเป็นพระวจนะของพระองค์อัลลอฮซุบฮานฮูวะตะอาลา และเป็นหนึ่งในคัมภีร์ทั้ง 4 คัมภีร์ของศาสนาอิสลามคือ เตารอจ ประทานให้กับนบีมูซา  อิลญีจ ประทานให้กับนบีอีซา สะบูรประทานให้กับนบีดาวูด  และอัลกุรอ่านประทานให้กับนบีมุฮัมหมัด ในพระมหาคัมภีร์มีทั้งหมด 30โองการ  300กว่าซูเราะห์  โดยการประทานโองการแต่ละโองการขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ โดยโองการแรกถูกประทานที่ถ้ำฮิเราะฮ.  ในตอนแรกกุรอ่านถูกจดบันทึกไม่เป็นที่เป็นทางเมื่อถึงสมัยคอลีฟะฮอุมัรได้มีการเรียบเรียงและจดบันทึกอัลกุรอ่านให้เป็นรูปเล่ม เพื่อไม่ให้สูญหายและหลงลืม และชาวมุสลิมก็ได้นำกุรอ่านมาเป็นทางนำแห่งชีวิต

อัลลอฮ ซุบฮานฮุวะตะอาลา

22 ม.ค.

พระเจ้าองค์เดียวคือ อัลลอฮ ซุบฮานฮูวะตะอาลา มีทั้งหมด 99พระนาม ดังนี้ พระผู้ทรงเมตตา ปราณี เป็นต้น พระองค์อัลลอฮ.พระผู้ซึ่งสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งหลาย พระผู้สร้างจักรวาล และบริหารจัดการดวงดาวให้โคจรอย่างเป็นระบบ พระผู้ทรงควบคุ่มให้กลางวันหมุนตามกลางคืนและทรงให้กลางคืนหมุนตามกลางวัน พระผู้ทรงยิ่งใหญ่แห่งสากลจักรวาลพระผู้ทรงมีวิทยปัญญาพระผู้ทรงรอบรู้ อัลลอฮตะอาลาทรงเป็นผู้สร้างโลกและเป็นผู้สร้างมนุษย์และสติปัญญษของมนุษย์ด้วย

ศาสนาอิสลาม

22 ม.ค.

 

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาหนึ่งบนโลกมีถิ่นกำเนิดที่ดินแดนอารเบีย  ประเทศซาอุดีอารเบีย มีหลักที่สำคัญ

คือ หลักการปฏิบัติ และหลัการศรัทธา ดังนี้

หลักการปฏิบัติมี 5 ประการ

1.การกล่าวปฏิญารตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮและมุฮัมหมัดเป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์

2.การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด

3.การบริจาคซะกาต

4.การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน

5.การไปทำฮัจญ์ ณ.บัยตุ้ลลลอฮ.

หลักการศรัทธา มี6 ประการ

1.การศรัทธาต่ออัลลอฮ.

2.การศรัทธาต่อบรรดามาลาอิกะฮ.

3.การศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์

4.การศรัทธาต่อบรรดาร่อซูลและนบี

5.การศรัทธาต่อวันสิ้นโลก

6.การศรัทธาต่อกำหนดสภาวะทั้งดีและไม่ดี

นอกจากนี้ศาสนาอิสลามยังมีลายละเอียดอีกมากมายไว้ในวาระหน้าจะมาเล่าให้ฟังวครับสวัสดีครับ

ขอบคุณภาพจาก pirun.ku.ac.th  เเละ oknation.net

มัสยิดอัลอักซอหรือบัยตุ้ลมักดิส

22 ม.ค.

มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศปาเลสไตน์ มัสยิดแห่งนี้เป็น1ใน3มัสยิดสำคัญของศาสนาอิสลาม มัสยิดนี้สร้างขึ้นในสมัยของนบีอิรอฮีมและในสมัยก่อนมัสยิดแห่งนี้เคยเป็นกิ๊บละฮแรกของอิสลามก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นมัสยิดฮะรอม ในปัจุบันบริเวณแห่งนี้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างอิสราแอลที่ต้องการดินแดนของประเทศปาเลสไตน์กับปาเลสไตน์ที่ต้องการปกป้องดินแดนของตนโดยที่อิสลาแอลมีประเทศสหรัฐคอยหนุนหลังอยู่และผมให้ท่านทั้งหลายรองคิดดูว่าประเทศมหาอำนาจกับประเทศเล็กท่าว่าประเทศไหนจะชนะ แต่อย่างไรก็ตามอัลลอฮก็จะทรงปกป้องและคุ่มครองมัสยิดของพระองค์ให้ปลอดภัย นอกจากนี้ผู้ใดที่มาละหมาดที่มัสยิดแห่งนี้ก็จะได้ผลบุญกว่า500เท่าและหากผู้ใดต้องการไปส่วนใหญ่จะไปหลังจากการทำฮัจญ์มากกว่า เพราะส่วนใหญ่จะไปเป็นกรุ๊ปคือไปทำฮัจญ์เมืองมักกะฮ และไปเยี่ยมมัสยิดนบี และไปมัสยิดอัลอักซอ

ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวไทยมุสลิม

มัสยิดนะนะวีย์

22 ม.ค.

มัสยิดนะนะวีย์เป็นหนึ่งในมัสยิดที่สร้างขึ้นในสมัยของ นบีมุฮัมหมัด ศอลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอนที่ท่านอพยพจากเมืองมักกะฮไปเมืองมาดีนะห์และเมื่อท่านไปถึงท่านก็ได้ทำการเลือกบ้านของท่านก่อนเป็นอันดับแรกโดยการเลือกบ้านของท่านโดยให้อูฐของท่านเดินไปและไปหยุดที่บ้านของใครก็ถือให้เป็นบ้านของท่านอย่างที่ชาวเมืองเต็มใจ และหลังจากนั้นได้เรียกริเวรข้างบ้านของท่านมาสร้างเป็นมัสยิด ชื่อว่ามัสยิดอัลนะบะวีย์และนิยมกันเรียกว่ามัสยิดนบี นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้ได้มีการฝั่งศพของท่าน นบีมุฮัมหมัด ศอลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมไว้อีด้วยและเมื่อใครมีโอกาสได้ไปทำฮัจญ์ก็จะไปเยียมหลุมศพและบ้านของท่าน และที่สำคัญใครที่ไปทำการละหมาดที่มัสยิดแห่งนนี้จะได้ผลบุญเท่ากับ5000เท่าของการละหมาดในมัสยิดในที่อื่นๆ

มัสยิดฮะรอม เมืองมักะฮ ราชอาณาจักร ซาอุดีอารเบีย

22 ม.ค.

ประเทศซาอุดีฯอยู่บริเวณคตาบสมุทรอาหรับทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้(ตะวันออกกลาง)ซึ่งในประเทศแห่งนี้มีมัสยิดที่สำคัญ2ใน3แห่งของศาสนาอิสลามคือมัสยิดฮารอม เมืองมักะฮ และมัสยิดนะบะวีย์ เมืองมาดีนะฮแต่ก่อนอื่นก็มารู้จักมัสยิดฮารอมกันก่อน

ตามประวัติศาสตร์อิสลามมัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของท่านนบีอิรอฮีม อะลัยฮิสสลาม  แต่ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีข้อบังคับในการไปทำพีธีฮัจญ์หลังจากสิ้นสมัยการเผยแพร่ศาสนาของนบีอิรอฮีมจบลง ชนเผ่าที่มีเชื่อสายมาจากท่านคือชนเผ่ากุเรชเป็นพวกที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮแต่กลับไปศรัทธาต่อรูปปั่นจึงได้นำเทวรูปมาตั้งไว้ เวลาผ่านมาจนมาถึงช่วงนบีมุฮัมหมัด ศอลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมในช่วงที่ท่ากลับมาจากการอพยพที่เมืองมะดีนะฮก็ได้กลับมาพิชิตมักกะฮและได้ทำลายเทวรูปและมีการบังคับสำหลับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถให้ไปประกอบพีธีฮัจญ์ และก็มีการเผยแพร่ศาสนาอิสลามไปทั่คาบสมุทรอาหรับ ทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรปบางส่วน เช่นประเทศสเปน ตุรกี เป็นต้น

ในสมัยปัจุบันมัสยิดแห่งนี้จึงมีการประกอบพีธีฮัจญ์ทุกๆปีในระหว่างเดือน กันยายน-ธันวาคม และยังมีการประกอบพิธีอุมเราะห์ด้วย นอกจากนี้ในทุกๆปียังมีการเปลียนผ้าคลุมกะบะฮโดยกษัตริย์ของประเทศประเทศซาอุดีอารเบียอีกด้วยเเละที่สำคัญที่สุดคือผู้ใดที่มาทำการละหมาดที่มัสยิดเเห่งนี้จะได้รับผลบุญ50000เท่า ผมก็ขอจบเพียงแค่นี้ก่อนและในครั้งหน้าเราจะมาพบกลับมัสยิดนะบวีย์ด้วย